เรียนฟิสิกส์..ไม่ยากอย่างที่คิด

11:20 PhysicsK 0 Comments

                                     

เมื่อพูดถึง ฟิสิกส์ ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวก็หนีไม่พ้น ยาก,ไม่เข้าใจ,ชีวิตนี้ขออย่าเจออีกเลย ยังไม่พอ เรายังมีน้ำใจแบ่งปันความมหาโหดของวิชานี้ไปยังเพื่อนๆ คนรู้จักอีก แล้ว ฟิสิกส์ จะง่ายได้อย่างไร

ก่อนที่เราจะฟังเสียงความคิดของคนอื่น เรามารู้จัก ฟิสิกส์ กันหน่อยว่า จริงๆ แล้ว ฟิสิกส์ คืออะไร


มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีิวิตที่มีความอยากรู้อยากเห็น ช่างสังเกตุสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งต่างๆ บนโลก เช่น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ สิ่งที่มองไม่เห็นเช่นพลังงาน แรงแม่เหล็ก การเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิต รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นนอกโลก มนุษย์เราก็ยังสังเกตุ และสนใจศึกษาอย่างจริงจัง จนกระทั่งความรู้ต่างๆ ได้รวบรวมจนเกิดเป็น วิชาฟิสิกส์ ขึ้น

จากการรวบรวม ค้นคว้า ทดลอง วิจัย จนได้เป็นทฤษฎีและกฎหลายข้อในฟิสิกส์ เหล่านักคิด นักวิทยาศาสตร์ต่างตั้งใจที่จะอธิบายสิ่งที่ตนเองค้นพบให้แก่คนรุ่นหลังได้เข้าใจบ้าง เขาเหล่านั้นจึงคิดสัญลักษณ์ตัวแปรต่างๆ มาแทนสิ่งที่ค้นพบ 


แต่บางครั้งการถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ความเข้าใจอาจผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญที่ควรทำความเข้าใจในการเรียนฟิสิกส์ คือ ต้องเข้าใจว่า ตัวแปรที่เราท่องๆ กันนั้น แทนอะไรในธรรมชาติ เราต้องใช้จินตนาการในการทำความเข้าใจ เช่น 


                             w = mg คือ น้ำหนัก เท่ากับ มวล คูณ ค่าแรงโน้มถ่วงโลก


จากสูตรนี้จะเห็นว่า คำอธิบายเหล่านี้ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเลย วิธีง่ายๆ ที่จะเข้าใจได้ก็ต้องอาศัยจินตนาการกันแล้ว แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า สูตรนี้จะเข้าใจง่ายเลยนำมาเป็นตัวอย่าง ส่วนสูตรอื่นๆ ก็ประยุกต์ตามแต่จินตนาการจะพาไป

วิธีนี้อาจไม่ต้องใช้จินตนาการมากนัก คือ หยิบสิ่งของมาสักชิ้น แล้วคิดว่าเราไม่รู้จักของสิ่งนี้มาก่อน และตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไมวางของบนมือ ของก็ติดมือ ทำไมวางบนพื้น ของก็ติดพื้น แสดงว่าต้องมีพลังงานบางอย่างอยู่ก็เป็นได้ (คนอวดผีมาซะงั้น..ไม่ใช่) 

สังเกตุได้ว่า สิ่งของมีน้ำหนัก รวมทั้งโลกก็มีแรงบางอย่างที่ทำให้ของติดกับพื้นผิว ดังนั้น การหาน้ำหนักจึงต้องรวมสองอย่างนี้จึงได้น้ำหนักที่ใกล้เคียงความจริง


บางที่การใช้จินตนาการเพียงอย่างเดียวเราก็ยังเรียนรู้ได้ไม่เต็มที่ การเรียนฟิสิกส์ต้องเรียนรู้ควบคู่ไปกับการทดลอง (เหมือนคำโฆษณาบรีส ยิ่งเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์) ยิ่งได้เรียนเรียนผ่านประสาทสัมผัสหลายทาง เรายิ่งเข้าใจได้มากขึ้น ดังนั้น การเรียนฟิสิกส์ ต้องทดลองให้มาก เราจะได้ประสบการณ์ที่สนุกและได้ความรู้ในเวลาเดียวกัน

แต่ๆๆ สังคมการเรียนฟิสิกส์ในประเทศของเราเป็นไปในทางไหนกัน ก็เหมือนที่กล่าวในตอนแรกว่า ฟิสิกส์ นั้น ยาก แล้วก่อนที่เด็กๆ จะรู้จักฟิสิกส์ก็ต้องได้ยินมาจากใคร...ผู้ใหญ่นั่นเอง 


เด็กจะเรียนอย่างมีความสุข ได้ความรู้และเข้าใจเต็มประสิทธิภาพก็ต้องเริ่มจากทัศนคติที่มีต่อสิ่งนั้นๆ วิชาฟิสิกส์ก็เช่นกัน วิธีเริ่มเรียนวิชานี้ง่ายๆ คือ คิดว่าเป็นวิชาที่สนุก ได้ทดลอง มีอะไรให้ค้นหาได้ตลอด เรียนแล้วก็สวยหล่อได้ ไม่หัวฟู



พอเปลี่ยนทัศนคติได้แล้ว แต่ดันมาเจอคุณครูสอนไม่รู้เรื่อง ข้อนี้ก็เป็นสาเหตุให้ทัศนคติเด็กเปลี่ยนไปในทางตรงกันข้ามอีกครั้ง แล้วเด็กจะทำยังไง ไปบอกครูสอนไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ใช่เรื่องใช่ไหม ข้อนี้ก็เอาเป็นว่า ใครเป็นครูที่สอนอยู่ก็ลองสร้างสรรค์วิธีการสอนให้สนุกและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้นก็ว่ากันไป


ทางเลือกของเด็กในการเรียนฟิสิกส์อีกทางก็คือ การเรียนพิเศษ วิธีนี้จะช่วยเพิ่มเติมเสริมทักษะให้เด็กได้เรียนรู้และเข้าใจเนื้อหามากขึ้น การเรียนพิเศษก็อาจเปรียบเหมือนการมีคุณครูอีกคนมาช่วยแนะนำและทบทวนเนื้อหาให้เด็กอีกครั้งหนึ่ง 

แล้วเด็กบางคนไม่มีทุนทรัพย์ไปเรียนพิเศษจะทำอย่างไร?
น้องๆ หนูๆ ก็ต้องศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ วิดิโอในอินเตอร์เน็ต รายการถ่ายทอดสด และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการติวฟรีของสถาบันต่างๆ บางทีอาจมีโปรโมชั่นพิเศษให้น้องๆ หนูๆ ที่มีความตั้งใจเรียนได้มีโอกาสเรียนพิเศษกับติวเตอร์ชื่อดังก็ได้ 

สุดท้ายนี้ ขอให้น้องๆ ที่เคร่งเครียดกับการเรียนฟิสิกส์ลองปรับทัศคติใหม่ และหาวิธีการในการเรียนที่เหมาะกับตัวเอง เพราะเมื่อเรามีความสุข เราจะเห็นหลากหลายเส้นทางให้เลือกเดิน พี่เคขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ได้พบวิธีเรียนฟิสิกส์ที่เหมาะกับตัวเองนะครับ 


 

0 ความคิดเห็น: